ห้องที่ ๙๔ : พระราชนิพนธ์


           บุตรพระพายชายเนตรค้นในคู หาเฮย
ยลอนงค์หนึ่งดูเพริศพริ้ม
งามเลิศเฉิดโฉมตรูตาติด ใจแฮ
หวามวาบปลาบอกปิ้มปว่นปลื้มลืมตน
          ลัดแลงแฝงหลืบถ้ำถึงนาง
นั่งชิดสกิดพลางพร่ำพร้อง
ไนนจึ่งนุชเนากลางป่าเปลี่ยว ฉนี้นา
บุญส่งคงคู่น้องเพื่อนเจ้าเนาไศล
          วานรินทร์ร้องหวีดว้าหวั่นใจ
สทกสเทินหฤไทยถดลี้
ใครหนออาจมาในไพรแต่ เดียวฤๅ
ไม่ตอบจะเซ้าซี้จึ่งแสร้งสนองคำ
          ตัวข้าข้าบาทเจ้าโลกา
มีผิดท่านสาปมาสถิตยถ้ำ
ทราบเรื่องเร่งเรวคลาไคลจาก เราแฮ
หน่วงหนักจักพลอยซ้ำผิดต้องพานตน
          อนิจจาอ้าอกต้องกรรมกรณ์
บอกพี่พอทราบสมรอย่าป้อง
เยียไฉนเมื่อใดอรจักสุด สาปนา
เผื่อพี่พอช่วยน้องมากน้อยตามแรง
          โทษข้าถ้าได้พบหณุมาน
ทหารเอกพระอวตารจักเปลื้อง
เท่านี้แลนิ่งนานเจียวอนุช พี่เอย
ก่นแต่แกล้งยักเยื้องอยู่ให้ป่วยการ
          หณุมานคือพี่แล้วโฉมเฉลา
จักช่วยส่งนงเยาว์ยาตรฟ้า
ไมตรีพี่ฝากเสาวลักษณ์รับ เรียมฤๅ
ฉวยสไบไขว่คว้าขยับต้องลองใจ
          ไฮ้อไรไขว่คว้าใช่ควรเคย
ยินเล่ากลับมาเฉลยลักเค้า
ทราบอยู่อย่าลวงเลยเหลือสด นักพ่อ
ไป่เชื่อชายเช่นเจ้าจักสู้ศึกอสูร
          ทหารพระพิศณุนั้นเปนพา นรเฮย
ขนเพชรเขี้ยวแก้วปรากฎแจ้ง
ยามหาวหากเหนดาราเด่น เดือนแฮ
ใช่เช่นเจ้าชู้แกล้งอวดกล้ากลัวจริง
          แสนงอนข้อนเถิดเจ้าตามใจ
แต่อย่าวอนอ้อนไปฟากฟ้า
พลางแผลงฤทธิเกรียงไกรเปนกระบี่ ขาวแฮ
รเห็จเหาะหาวโอษฐอ้าอร่ามด้วยเดือนดาว
           สาวสวรรค์หวั่นหวีดป้องปิดภักตร์
วายุบุตรปลอบนงลักษณ์แนบข้าง
เชิญค้านทหารจักรกฤษณผิด ไฉนแม่
ต้องอย่างรางวัลบ้างก่อนเมื้อเมืองบน
           ทราบแล้วเจ้าเลิศล้ำฤทธิรงค์
เหมือนว่าเมตตาจงส่งข้า
หน่วงหนักพวักพะวงไยป่วย การนา
ราชกิจจะติดช้าเช่นนี้ดีไฉน
           จักไปประยุทธด้วยไพรี
ข้องบ่วงห่วงมารศรีสุดเปลื้อง
บิดเบือนเงื่อนเทวีหน่วงราช การแฮ
นงลักษณอย่ายักเยื้องหย่อนให้สมหวัง
           พลางตระโบมโลมลูบเกี้ยวกอดผสาน
สองสบสุดศุขสราญร่วมรู้
ลูกลมลเลิงลานลืมเหนื่อย
นางพะวงหลงชู้ชื่นล้ำลืมสวรรค์
          เสร็จสองสมสวาศแล้วพานร ถามแฮ
นางแนะทางกำธรที่เร้น
สองกิจต่างทางจรจำแยก สองแฮ
สองวิตกอกเต้นจากถ้ำดำเนิน
           ถึงแท่นปากถ้ำทอดทรวงอา ไลยนอ
สองเลือกปลิดมาลาแลกให้
พานรร่ำพรรณนาขอโทษ ทัณฑ์แฮ
นางชอ้อนวอนไหว้ผิดพลั้งขอษมา
           สองสั่งสองโศกส้วมสอดกัน แสงแฮ
กลับคิดราชกิจพลันข่มสร้อย
โจงจัดพัตรกระสันสนิทแน่น แฟ้นนา
ช้อนเชิดอนุชน้อยคว่างขึ้นหาวหาย
           เสร็จส่งนงลักษณแล้วพานร
แสดงเดชเดินอัมพรผาดผ้าย
ดลแดนสิทันดรดูสมุท เหนแฮ
ฟองใหญ่ไป่เคลื่อนย้ายที่ยั้งยลนงน
           แปลงตนโตเติบแม้นพรหมมาน
โจมจับฟองชลธารแหวกพ้อง
ไพรีรากษษทยานเข้ายุทธ แย้งแฮ
ดำโดดโลดกลางท้องสมุทแม้นจักรผัน
           ชลธารฉานฉ่าครื้นโครมดัง
ขุนวิรุณจำบังฟาดต้อง
ลูกลมจ่อมจมยังพื้นภาค สมุทแฮ
พลันผลุดผุดขึ้นพ้องราพรื้อรำบาน
           หณุมานหาญหักยื้อคทา ราพเอย
มารสะบัดพลัดมือมาเพลี่ยงพลั้ง
กระบี่ตีอสุรสาหัศบอบ ช้ำแฮ
สุดเจบสุดจะยั้งอยู่ต้านทานกร
          กำธรถาแถกน้ำดำดึง
ดลภาคพื้นรำพึงจะส้อน
ร่ายเวทวิเศศขึงขัดสมาธิ มั่นแฮ
น้ำรอบแต่ยังร้อนเหตุเร้นมฤตยู
           หณุมานเมิลยักษลี้หลบหาย
ร่ายเวทวิเศศกลายกลับให้
หางยาวนับโยชน์ขยายหยั่งสมุท
วงรอบอสุเรศไว้หว่างห้องขนดหาง
           รึงรัดกรหวัดได้ตนมาร
ฉุดกระชากจากธารถีบซ้ำ
เหยียบกายจิกเกษทยานยืนหยัด
ฉวยชักตรีเพชรห้ำหั่นเกล้าขาดรอน
           เสร็จการผลาญราพเสี้ยนศึกไกษย
ขุนกระบี่ดีใจจิกเกล้า
พาเหาะรเห็จไปโดยด่วน
ถึงทัพคำนับเฝ้าเทิดเกล้ามารถวาย
           ปางพระหริรักษยั้งสนามรณ
บัดเพ่งรูปภาพยนต์ยอบล้ม
กลายเปนพัตรโพกรคนเคียงหอก เหนแฮ
เหลือบพบพายุบุตรก้มเกษเฝ้ากลางสนาม
           ตรัสถามความทราบเบื้องบาทบงสุ์ สิ้นแฮ
ชมชอบหณุมานยงยิ่งแกล้ว
ใช้ได้อย่างใจจงจดชอบ เขาแฮ
อาลักษณลิกขิตแล้วสั่งผ้ายพลไกร
           นายทัพรับสั่งแล้วสั่งกัน
เรวเร่งขับพลขันธ์กลับแคล้ว
ถึงประทับเทพไพชยันต์ยังพลับ พลาเฮย
พระเสดจโดยเกยแก้วสู่ห้องทองผธม

จบห้องที่ ๙๔

  เนื้อความกล่าวถึงหนุมานพบนางวานรินทร์อยู่ในถ้ำก็เข้าไปเกี้ยวพาราสี นางบอกว่าเป็นข้าบาทของพระอิศวร ถูกสาปลงมาอยู่ในถ้ำ จะพ้นคำสาปต่อเมื่อได้พบกับหนุมานทหารเอกของพระราม หนุมานจึงคืนร่างเป็นวานรเผือกเหาะขึ้นไปแล้วหาวเป็นดาวเป็นเดือน หนุมานร่วมอภิรมย์กับนางวานรินทร์ เมื่อรู้ที่ซ่อนของวิรุณจำบังแล้ว ก็โยนนางกลับขึ้นสวรรค์ แล้วเหาะไปถึงสีทันดรเห็นฟองน้ำใหญ่ที่ไม่ลอยไปตามสายน้ำ จึงแปลงร่างเท่าพระพรหมฉวยเอาฟองน้ำขึ้นมา วิรุณจำบังตกใจออกมาต่อสู้กับหนุมาน เมื่อเพลี่ยงพล้ำก็ร่ายเวทดำน้ำหนีไป หนุมานเนรมิตหางให้ยาวนับโยชน์ลงไปรัดร่างวิรุณจำบังกระชากขึ้นมาแล้วใช้ตรีเพชรตัดเศียรขาด เมื่อวิรุณจำบังถูกสังหาร หุ่นพยนต์ก็หายไป

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ไฉนจึ่งนุชเนากลาง”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ที่ยั้งยลฉงน”